กรุงเทพฯ ขยับขึ้นเป็นอันดับ 33 ในดัชนีเมืองระดับโลก (Global Cities Index) ปี 2025 ของ Kearney ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก - BizConnectionNews | ครบเครื่องเรื่องธุรกิจ และไลฟ์สไตล์สำหรับคุณ

Hot News : ข่าวเด่นวันนี้

Home Top Ad

ติดต่อโฆษณาได้ที่นี่

Post Top Ad

ติดต่อโฆษณาได้ที่ BizConnectionNews

วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2568

กรุงเทพฯ ขยับขึ้นเป็นอันดับ 33 ในดัชนีเมืองระดับโลก (Global Cities Index) ปี 2025 ของ Kearney ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก

https://cms-visit.bangkok.go.th/uploads/Frame_352_51a708d408_52c6ee4aa8.jpeg

รายงานล่าสุดจาก Kearney (คาร์นีย์) ได้เน้นถึงขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก และความสามารถในการปรับตัวของกรุงเทพมหานครในดัชนีเมืองระดับโลก (Global Cities Index – GCI) ฉบับปี 2025 โดยรายงานนี้จัดอันดับเมืองที่มีความเชื่อมโยงและมีอิทธิพลในระดับนานาชาติสูงที่สุด แม้ต้องเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์

ดัชนี GCI ของ Kearney ทำการประเมินเมืองต่าง ๆ ทั่วโลกผ่าน 5 มิติหลัก ได้แก่ กิจกรรมทางธุรกิจ ทรัพยากรมนุษย์ การแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ทางวัฒนธรรม และการมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยอาศัยตัวชี้วัดรวมทั้งสิ้น 31 รายการ เพื่อสะท้อนศักยภาพของเมืองในการดึงดูด รักษาไว้ และส่งเสริมการเคลื่อนไหวของผู้คน เงินทุน และแนวคิดในระดับโลก

กรุงเทพมหานคร ขยับขึ้น 1 อันดับจากอันดับที่ 34 ในรายงานปี 2024 มาอยู่ที่อันดับที่ 33 ในดัชนีปี 2025 แม้อยู่ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยการเลื่อนอันดับดังกล่าวมีปัจจัยมาจากการพัฒนาในมิติกิจกรรมทางธุรกิจ ซึ่งปรับตัวดีขึ้นถึง 7 อันดับ โดยเฉพาะในด้านการจัดประชุมทางธุรกิจ ตามตัวชี้วัดของสมาคมการประชุมนานาชาติ (ICCA) และตัวชี้วัดด้านตลาดทุน รายงานยังระบุว่า การเติบโตของการค้าภายในภูมิภาคมีส่วนช่วยหนุนผลลัพธ์ดังกล่าว แม้จะเผชิญบริบทโลกที่มีความซับซ้อนและแบ่งขั้วมากขึ้น

รายงานระบุว่า ในยุคของปัญญาประดิษฐ์และสังคมข้อมูล เมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็วอย่างกรุงเทพฯ ไม่ได้แข่งขันเพียงแค่ขนาดหรือประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ยังแข่งขันด้วยความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพเมืองให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานทดแทน และบุคลากรที่มีทักษะสูง เพื่อก้าวทันและใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดจากปัญญาประดิษฐ์ พร้อมทั้งบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ

https://api.tourismthailand.org/upload/live/article_desktop_cover_image/50905-33736.png

10 อันดับเมืองชั้นนำในดัชนีเมืองระดับโลก (Global Cities Index) ประจำปี 2025 ได้แก่:

1. นิวยอร์ก
2. ลอนดอน
3. ปารีส
4. โตเกียว
5. สิงคโปร์
6. ปักกิ่ง
7. ฮ่องกง
8. เซี่ยงไฮ้
9. ลอสแอนเจลิส
10. ชิคาโก 

https://api.tourismthailand.org/upload/live/business_content_thumbnail/32361/6d8d0f56bb389bbc296046952cedf6d1.jpeg

โอกาสและจุดแข็งของกรุงเทพฯ ในบริบทโลก

กรุงเทพฯ กำลังก้าวหน้าอย่างโดดเด่นในหลายด้านสำคัญ เพื่อพัฒนาเป็นเมืองระดับโลกที่พร้อมด้านดิจิทัลและมีความสามารถในการปรับตัว หนึ่งในจุดเด่นคือการเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงในหลายตัวชี้วัดด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยเฉพาะในส่วนของศูนย์ข้อมูล (Data Centre) ที่มีอันดับดีขึ้นจากอันดับ 78 ในปีที่ผ่านมา มาอยู่ที่อันดับ 55 ในปีนี้ แม้ว่าความเร็วอินเทอร์เน็ตจะลดลงเล็กน้อย แต่กรุงเทพฯ ยังคงครองอันดับสูงในระดับ 22 ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสในการพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้มุ่งเน้นเทคโนโลยีและดิจิทัลมากยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการเติบโตคือการขยายการเข้าถึงและสมัครใช้งานบริการบรอดแบนด์ในกรุงเทพฯ ปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 118 การส่งเสริมความเสมอภาคทางดิจิทัลจะช่วยให้ประชาชนและภาคธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อที่มีคุณภาพได้อย่างเต็มศักยภาพ

คุณดาวิด อูเลนบร็อค พาร์ตเนอร์ของ Kearney ประเทศไทย กล่าวว่า “กรุงเทพฯ มีองค์ประกอบครบถ้วนที่จำเป็นสำหรับการก้าวสู่การเป็นเมืองระดับโลกชั้นนำในทศวรรษหน้า ทรัพยากรมนุษย์ถือเป็นหนึ่งในโอกาสที่สำคัญที่สุดของกรุงเทพฯ แม้ว่าเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคจะมีการขยับขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า เรามีความเชื่อมั่นในทัศนคติเชิงบวกว่ารัฐบาลไทยจะยังคงลงทุนในการดึงดูดและรักษาทรัพยากรมนุษย์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและเน้นนวัตกรรมทางกฎระเบียบ”

ถึงแม้ว่ากรุงเทพฯ จะอยู่ในอันดับที่ 97 ด้านจำนวนประชากรที่เกิดในต่างประเทศ ต่ำกว่าเมืองอย่างจาการ์ตา (อันดับ 37), กัวลาลัมเปอร์ (อันดับ 40) และสิงคโปร์ (อันดับ 12) แต่ช่องว่างนี้ยังสะท้อนถึงโอกาสในการพัฒนาของกรุงเทพฯ ในอนาคต ประชากรที่มีความหลากหลายและเป็นนานาชาติจะช่วยเสริมสร้างการเชื่อมต่อในระดับโลก ส่งเสริมนวัตกรรม และเพิ่มความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของเมือง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันและความพร้อมในการปรับตัวในยุคปัจจุบัน

https://travel.mthai.com/app/uploads/2017/12/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C-1.jpg

ศูนย์กลางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย: พลังขับเคลื่อนการเติบโตของภูมิภาค

เมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ในเอเชียหลายแห่งกำลังมีบทบาทเพิ่มขึ้นในดัชนี GCI จากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาบุคลากร และความพร้อมด้านดิจิทัล ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นในหลายมิติของการประเมิน โดยเฉพาะในด้านกิจกรรมทางธุรกิจ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเมืองไทเปและกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งสามารถขยับอันดับขึ้นได้ถึง 13 และ 9 อันดับตามลำดับ

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแสดงศักยภาพที่โดดเด่นเหนือภูมิภาคอื่นๆ ในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยทุกภูมิภาคมีคะแนนเพิ่มขึ้นในมิตินี้ ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและการบูรณาการในระดับโลกที่ส่งผลต่อการแข่งขันของเมือง เมืองต่างๆ เช่น เซินหยาง โอซาก้า ไทเป และมุมไบ มีพัฒนาการที่โดดเด่น โดยแต่ละเมืองได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการเชื่อมต่อและการพัฒนาภาคบริการ 

https://static.thairath.co.th/media/dFQROr7oWzulq5Fa6rBUU6UKyCrIjzpPVzYBCec2L2toWsAS0w4jdTQ43VdoWkvsN7U.jpg

รายงานภาพรวมแนวโน้มการพัฒนาเมืองระดับโลก (Global Cities Outlook)

ในขณะที่ดัชนีเมืองระดับโลก (GCI) สะท้อนภาพการดำเนินงานในปัจจุบัน รายงานภาพรวมแนวโน้มการพัฒนาเมืองระดับโลก (GCO) มุ่งเน้นการประเมินศักยภาพในอนาคต โดยวัดประสิทธิภาพของเมืองชั้นนำทั่วโลกในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความสำเร็จ โดยประเมินผ่าน 4 มิติหลัก ได้แก่ ความเป็นอยู่ส่วนบุคคล เศรษฐกิจ นวัตกรรม และการบริหารจัดการ

เมืองในภูมิภาคตะวันตกกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านธรรมาภิบาลและความเป็นอยู่ทางสังคม โดยได้รับผลกระทบจากความไม่เท่าเทียมและความแตกแยกทางการเมือง ขณะที่สิงคโปร์และโซลมีการเติบโตอย่างโดดเด่นจนก้าวขึ้นสู่ 5 อันดับแรก ส่วนเมืองที่กำลังมีบทบาทเพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชีย เช่น ไทเปและจาการ์ตา ก็แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงโอกาสที่ขยายตัวในระดับโลก สำหรับกรุงเทพมหานคร ยังคงอยู่ในอันดับที่ 105 เช่นเดิมตั้งแต่ปี 2023 เพื่อที่จะก้าวขึ้นสู่อันดับที่สูงขึ้น กรุงเทพฯ ควรมุ่งเน้นการเสริมศักยภาพด้านนวัตกรรม ส่งเสริมความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม และสร้างความเท่าเทียมทางสังคมให้มากขึ้น

https://image.posttoday.com/uploads/images/contents/w1024/2025/07/H5nLHwQ4A08x0MHBdP6o.webp?x-image-process=style/lg-webp

มุมมองอนาคต: ผู้นำในยุคแห่งความชาญฉลาด

รายงานปี 2025 สรุปว่า ความสามารถในการแข่งขันระยะยาวของเมืองขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ 3 ด้านที่สัมพันธ์กัน ได้แก่ การเพิ่มศักยภาพด้านพลังงาน การเติบโตท่ามกลางความน่าอยู่และความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของเมือง และการพัฒนาบุคลากรที่พร้อมรองรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เมืองที่ดำเนินงานอย่างเป็นระบบ โดยบูรณาการปัจจัยเหล่านี้เข้ากับวิสัยทัศน์ที่เป็นหนึ่งเดียว จะไม่เพียงแต่รับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังสามารถกำหนดยุคสมัยใหม่แห่งการเป็นผู้นำระดับโลกได้อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad

ติดต่อโฆษณาได้ที่นี่

หน้าเว็บ