Universal Robots (UR) ผู้นำระดับโลกด้านหุ่นยนต์โคบอท จัดงาน Collaborate Thailand 2025 อย่างยิ่งใหญ่ในกรุงเทพฯ ตอกย้ำศักยภาพการเติบโตของประเทศไทยในด้านระบบอัตโนมัติแบบโคบอท ภายในงานมีการจัดแสดงหุ่นยนต์โคบอทกว่า 15 Units บนพื้นที่จัดแสดง ทำให้ Collaborate Thailand ก้าวขึ้นเป็นงานสัมมนาโคบอทที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 300 คน ทั้งผู้บริหารระดับตัดสินใจ ผู้นำอุตสาหกรรม และพันธมิตรในระบบนิเวศของ UR มารวมตัวกันเพื่อสัมผัสโซลูชันฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และ AI ล้ำสมัยที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมในอนาคต
ภายใต้ธีม “Collaborative Automation: The Future of Industry” ของงานในปีนี้ UR ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่หลายรายการ ได้แก่ โคบอทรุ่น UR8 Long ซึ่งได้เปิดตัวในระดับโลกไปในเดือนที่ผ่านมา และโคบอทรุ่น UR15 ที่มอบประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวเหนือระดับ พร้อมความเร็วสูงสุดที่จุดศูนย์กลางของอุปกรณ์ที่ต่อเพิ่ม (Tool Center Point: TCP) ได้สูงสุดถึง 5 เมตรต่อวินาที
Poi Toong Tang รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท Teradyne Robotics กล่าวว่า “ระบบอัตโนมัติไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นความจำเป็นเชิงกลยุทธ์สำหรับผู้ผลิตที่กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน แรงกดดันด้านต้นทุน และความต้องการด้านการผลิตที่ซับซ้อน ปัจจุบันบทสนทนาได้เปลี่ยนจากคำถามว่า ‘ทำไมต้องทำ’ มาเป็น ‘จะทำได้เร็วแค่ไหน’ ซึ่ง Teradyne Robotics กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เชิงกายภาพ (Physical AI) และระบบอัตโนมัติที่ยืดหยุ่นจากแนวคิดมาสู่การใช้งานจริง เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและสมรรถนะของภาคการผลิตทั่วโลกอย่างเป็นรูปธรรม”
ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านการผลิตยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกำลังเผชิญกับความต้องการด้านระบบอัตโนมัติที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย Colin Soh ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย บริษัท Teradyne Robotics เล็งเห็นถึงโอกาสในการเติบโตของไทย เขากล่าวว่า “ประเทศไทยมีปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสมในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับภูมิภาคด้านระบบอัตโนมัติ ผ่านการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากภาครัฐ บุคลากรที่มีทักษะ และฐานการผลิตที่มั่นคง ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะทำให้ระบบอัตโนมัติขั้นสูงเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยหุ่นยนต์โคบอทรุ่นใหม่ล่าสุด ซอฟต์แวร์อัจฉริยะ และรุ่นที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาด เช่น UR7e และ UR12e เพื่อสนับสนุนการเดินหน้าสู่เป้าหมายอุตสาหกรรม 4.0 ของประเทศไทยอย่างเต็มศักยภาพ”
AI Accelerator และโคบอทรุ่นใหม่ ดึงดูดทุกสายตาในงาน
AI Accelerator ของ UR ออกแบบมาเพื่อมอบความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์และการปรับตัวอย่างชาญฉลาดให้กับระบบอัตโนมัติ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของงาน โดย AI Accelerator ของ UR ทำงานบนระบบโมดูล NVIDIA Jetson AGX Orin และขับเคลื่อนด้วยชุดเครื่องมือเร่งความเร็วด้วย CUDA ของ NVIDIA Isaac และโมเดล AI ทำให้สามารถมอบแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นให้กับนักพัฒนาในการสร้างและทดสอบแอปพลิเคชัน ลดระยะเวลาการออกสู่ตลาด และช่วยแก้ปัญหาที่เคยเป็นไปไม่ได้ในวงการหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน อีกทั้งแพลตฟอร์มนี้ช่วยให้สามารถพัฒนาโซลูชันระบบอัตโนมัติที่ใช้ AI ได้อย่างรวดเร็ว ครอบคลุมการใช้งาน เช่น การตรวจจับวัตถุด้วย AI (AI Object Detection), การวางแผนเส้นทางอัจฉริยะ (Smart Path Planning), การตรวจหาความบกพร่องด้วย AI (AI Defect Detection) และ การปรับพื้นที่ทำงานให้แม่นยำ(Workspace Calibration)
นอกจากฮาร์ดแวร์ล้ำสมัยแล้ว UR ยังได้สาธิตซอฟต์แวร์และบริการล่าสุด ซึ่งรวมถึง PolyScope X ที่มาพร้อมฟีเจอร์นวัตกรรมอย่าง Motion+, OptiMove, Teach Mode และ UR Studio รวมถึง URCare บริการระดับโลกเฉพาะของบริษัทที่สนับสนุนธุรกิจทั่วโลก ทั้งนี้ URCare ถือเป็นบริการที่โดดเด่นและไม่มีใครเทียบได้ในอุตสาหกรรม ซึ่งสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญและความมุ่งมั่นของ UR ที่มีต่อความสำเร็จระยะยาวของลูกค้า
โชว์ศักยภาพผ่านการใช้งานจริง
ยิ่งไปกว่านั้น Collaborate Thailand 2025 ในปีนี้ ยังมีการสาธิตนวัตกรรมหุ่นยนต์โคบอท พร้อมกับพันธมิตร UR+ ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การประยุกต์ใช้จริงในหลายภาคอุตสาหกรรม เช่น การบรรจุภัณฑ์ การประกอบ การเชื่อม การตรวจสอบคุณภาพ และอื่น ๆ การสาธิตเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ระบบนิเวศระดับโลกของ UR ช่วยสร้างประสบการณ์ระบบอัตโนมัติแบบครบวงจร ทำให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพงานได้อย่างเต็มความสามารถยิ่งขึ้น
จากนวัตกรรมเหล่านี้ ลูกค้าของ UR ได้นำหุ่นยนต์โคบอทไปประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาจริงในสายการผลิต ตัวอย่างเช่น บริษัท Toyoda Gosei (Thailand) ได้นำแนวคิดงานกลไกแบบญี่ปุ่น “คาราคุริ (Karakuri)” มาผสานกับหุ่นยนต์โคบอทของ UR เพื่อสร้างระบบอัตโนมัติที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
จากซ้ายไปขวา: Poi Toong Tang รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท Teradyne Robotics, Colin Soh ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย บริษัท Teradyne Robotics, อักเซล กุสตาฟสัน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ บริษัท Universal Robots, ธนกิตติ์ ธานีรัตน์ ผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีน บริษัท Teradyne Robotics, Keigo Kimura รองประธานบริษัท Toyoda Gosei Thailand และ Atomu Nakamura ผู้ประสานงานแผนกวิศวกรรมการผลิต บริษัท Toyoda Gosei Thailand
เคอิโงะ คิมูระ รองประธาน บริษัท Toyoda Gosei (Thailand) กล่าวว่า “เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในสายการผลิต เราได้นำแนวคิดงานกลไกแบบญี่ปุ่น คาราคุริ (Karakuri) มาผสานกับหุ่นยนต์โคบอทของ UR เพื่อสร้างระบบอัตโนมัติที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แนวทางนี้ไม่เพียงช่วยลดภาระงานทางกายให้กับพนักงานของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาวิศวกรรุ่นใหม่ด้านระบบอัตโนมัติอีกด้วย เรามุ่งหวังที่จะขยายโมเดลความร่วมมือระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์นี้ไปสู่โรงงานของเราในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับรากฐานการผลิตอัจฉริยะของ Toyoda Gosei ต่อไป”
UR ยังคงมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน พร้อมสนับสนุนการก้าวสู่ อุตสาหกรรม 4.0 ของประเทศไทยในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับผู้ผลิตทั่วโลกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น