ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2568 ตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ภาณุเดช สุขวงศ์ รอง ผบช.สง.ก.ตร.ปฏิบัติราชการ ภ.1, พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.พีรศักดิ์ รอดบน รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.มณเทียร เบ้าทอง รอง ผบก.ปฏิบัติราชการ บก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.วิศิษฏ์ มะอักษร รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.ชินโชติ วัฒนธนานพ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.1
นำการปฏิบัติการโดย พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.นัฎฐพงษ์ ศรีเพ็ญประภา ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.นภธร วาชัยยุง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.พูนสุข เตชะประเสริฐพร ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1, พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ กก.สส.1, กก.สส.2, กก.สส.3 และ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.1 ได้ทำการสืบสวนกลุ่มเครือข่ายคนไทยที่เป็นผู้จัดหาบัญชีม้าและฟอกเงิน ที่เป็นเครือข่ายฟอกเงินให้กลุ่ม Scammer
โดยได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ามีกลุ่มบุคคลมีพฤติกรรมรวมตัวกันเป็นกลุ่ม จัดหาบัญชีม้าเพื่อ รับเงินจากกลุ่มแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ระหว่างประเทศ โดยมีหัวหน้าชาวจีนคอยสั่งการหญิงชาวไทยให้รวบรวมจัดหากลุ่มบุคคลที่จะรับโอนเงินจากการหลอกลวง นำเงินดังกล่าวมาฟอกด้วยวิธีการนำเงินสดไปและเปลี่ยนเป็นเงินสกุลคริปโตเคอเรนซี่ แล้วส่งต่อกลับคืนไปให้หัวหน้าชาวจีน โดยกลุ่มคอกม้าจะได้เงินเป็นเปอร์เซ็นของการกดเงิน ได้เป็นค่าตอบแทน จึงได้ทำการสืบสวนเรื่อยมาจนกระทั่งนำไปสู่การสะกดรอย เฝ้าสังเกตการณ์ และนำไปสู่การตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลาง ในสถานที่ต่างๆ ดังนี้
1. หมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ ซ.หมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ 2/1 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี
2. คอนโด ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จว.นนทบุรี
3. ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว
4. โรงแรม แขวงรัชดา เขตดินแดง กรุงเทพฯ
โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดจำนวน 8 คน โดยมีฐานความผิดแตกต่างกันตามพฤติกรรมความผิด ดังนี้
1. ร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย กระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่และสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเป็นซ่องโจร หรือร่วมกันประชุมในที่ประชุมอั้งยี่หรือซ่องโจร
2. ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่าหรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด
3. เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด
4. ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน
กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วย
กลุ่มผู้ควบคุมและสั่งการ (หัวหน้า/ผู้บริหารเครือข่าย)
1. น.ส.ภูชิษา (แจ๋ว/เบล) อายุ 43 ปี ควบคุมสั่งการ เลือกบัญชีธนาคารให้กลุ่มจีนใช้รับเงิน และรับเงินสดจากผู้ร่วมขบวนการ เพื่อนำไปส่งให้นายทุนชาวจีน
กลุ่มจัดหา-ควบคุมบัญชีม้า
2. น.ส.ศศิธร (บุ๋ม) อายุ 38 ปี กดเงิน-รวบรวมเงินสดส่งให้ น.ส.ภูชิษาฯ
3. นายอดิศักดิ์ (หนุ่ม) อายุ 38 ปี จัดหาบัญชีธนาคารให้ใช้เป็นบัญชีม้าให้กับ น.ส.ศศิธรฯ และควบคุมบัญชีม้าที่โรงแรม
4. นายเพชร อายุ 30 ปี ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า นัดหมายและพาไปตามจุดถอนเงิน
กลุ่มผู้มอบบัญชีให้ผู้อื่นใช้ (เจ้าของบัญชีม้า)
5. น.ส.ฐญามน อายุ 47 ปี บัญชีม้า-ถอนเงินสดแล้ว
6. นายไชยเชฏฐ์ อายุ 53 ปี บัญชีม้า
7. นายสีชาย อายุ 44 ปี บัญชีม้า
8. นายดนุพล อายุ 27 ปี บัญชีม้า
จากการปฏิบัติการสามารถตรวจยึดของกลางได้ ดังนี้
1. เงินสด จำนวน 846,800 บาท
2. บัญชีธนาคาร จำนวน 13 บัญชี
3. บัตรกดเงินสด จำนวน 14 ใบ
4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 18 เครื่อง
5. ซิมโทรศัพท์มือถือ จำนวน 23 ซิม
6. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 1 เครื่อง

จากการซักถามทราบว่ากลุ่มคอกม้าที่ถูกจับกุมได้ย้ายฐานสแกนหน้าจากประเทศกัมพูชามาดำเนินการในประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2568 เนื่องจากปัญหาแนวชายแดน โดยเฉลี่ยแล้วจะถอนเงินสดนำส่งให้ผู้จ้างวานในวงเงินประมาณ 1-2 ล้านบาท ต่อวัน จะได้ค่าตอบแทนเหมารวมร้อยละ 4 ของยอดถอนเงิน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท นอกจากนี้จากการสืบสวนขยายผลพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการส่งผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิดกลับไปยังนายทุนชาวจีน โดยใช้วิธีการให้คนไทยนำเงินสดไปแลกเหรียญดิจิทัล จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาจะโอนเหรียญดิจิทัลกลับไปให้นายทุนชาวจีน ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป
จากการปฏิบัติการดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจาก WARROOM PCT ตร.ในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และประสานติดตามผู้เสียหาย โดยในเบื้องต้นตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายโอนเงินมายังกลุ่มคอกม้านี้ในวันที่ 2 พ.ย.2568 และได้ถอนเงินที่ได้จากหลอกลวงออกมาที่ห้างย่านลาดพร้าว คือ
1. นายชาญวิทย์ ตรวจยึดเงินไว้ได้ 160,000 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สภ.พนมทวน จว.กาญจนบุรี
2. นายอนุกูล ตรวจยึดเงินไว้ได้ 29,700 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สภ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์
3. น.ส.สิริย์ปัญญา ตรวจยึดเงินไว้ได้ 20,000 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สภ.บางศรีเมือง จว.นนทบุรี
4. นางนิดานาถ ตรวจยึดเงินไว้ได้ 45,531 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองแพร่ จว.แพร่
5. นางปิยะกร ตรวจยึดเงินไว้ได้ 12,000 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สน.นิมิตรใหม่ จว.กรุงเทพฯ
6. น.ส.พัทธนันทน์ ตรวจยึดเงินไว้ได้ 45,000 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สภ.วาปีปทุม จว.มหาสารคาม
ตำรวจภูธรภาค 1 โดย บก.สส.ภ.1 จะได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินในรายอื่นๆ ประสานการคืนเงิน (Money Cash Back) ให้กับผู้เสียหาย ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น