นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาด้านยาเสพติด และกำหนดให้เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล (Quick Big Win) ที่ต้องดำเนินการให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อความปลอดภัยของสังคมและประชาชน ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนภารกิจเชิงรุกในการสกัดกั้นยาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมาย กรมศุลกากรจึงขานรับนโยบายดังกล่าว และเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามทางศุลกากร ในการตรวจค้นหาสารเสพติดและสารตั้งต้นยาเสพติด รวมถึงสิ่งของผิดกฎหมายที่ถูกซุกซ่อนมากับสินค้านำเข้า – ส่งออกตามช่องทางต่างๆ ด้วยการใช้ทั้งเทคโนโลยี และใช้สุนัขตรวจค้น (K-9) เข้าช่วยการปฏิบัติงาน ปัจจุบันมีศูนย์ฝึกสุนัข K-9 และมีสุนัขตรวจค้นในความดูแล ทั้งหมด 6 ตัว
ในวันนี้ กรมศุลกากร ได้รับมอบสุนัขตรวจค้นยาเสพติด จำนวน 3 ตัว จากสำนักงานพิทักษ์เขตแดนแห่งออสเตรเลีย (The Australian Border Force: ABF) ได้แก่ Pixel Wafer และ Walshy โดยได้รับเกียรติจาก H.E. Dr. Angela Jane Macdonald เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย, Superintendent James Ryan และเจ้าหน้าที่จาก ABF เข้าร่วมพิธี
ซึ่งการมอบสุนัขตรวจค้นในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างกรมศุลกากรและสำนักงานพิทักษ์เขตแดนแห่งออสเตรเลีย ภายใต้โครงการ ABF - Thai Customs Detector Dog Cooperation 2024–2027 ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านการพัฒนาศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ องค์ความรู้ ทักษะ และเทคนิคต่างๆ ให้แก่ทีมสุนัขตรวจค้นของกรมศุลกากรในการร่วมปฏิบัติภารกิจด้านการสืบสวนและปราบปรามให้มีมาตรฐานระดับสากล
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 25 ปี ระหว่างกรมศุลกากรไทย และสำนักงานพิทักษ์เขตแดนแห่งออสเตรเลีย
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยทางสังคม ผ่านการสกัดกั้นและป้องกันการลักลอบนำเข้าหรือส่งออกยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ กรมศุลกากรจะนำสุนัขตรวจค้นทั้ง 3 ตัวไปใช้ในการปฏิบัติงานด้านการตรวจค้นพัสดุและสินค้าที่มีความเสี่ยง รวมทั้งภารกิจด้านการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่สำคัญ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้มีประสิทธิผลสูงสุดต่อไป
Hello, my name is Alex Lim. I'm self-employed from Bangkok, Thailand.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น